Thai Pride เหตุผลที่ทำให้ SAPPE เติบโต 32.6% ด้วยยอดขายปี 65 ที่ 4566.4 ล้านบาท All Time High




 

นี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นช่วงเก็บเกี่ยวความสำเร็จของ บมจ. เซ็ปเป หรือ SAPPE หลังจากหวานเมล็ดพันธุ์ไว้ทั่วโลกมาหลายปี โดยในปี 2565 มีรายได้ New High ติดต่อกันตั้งแต่ไตรมาส ึงไตรมาส ดท้ายด้วยผลประกอบการปี 2565 มีผลงานยอดเยี่ยมสูงสุดเป็นประวัติการณายได้จากการขาย 4,566.4 ล้านบาท พิ่มขึ้น32.6% แลมีกำไรสุทธิ 653.1 ล้านบาท บวก 59.0%ทุบสถิติสูงสุดใหม่แบบไม่หยุด โดยปัจัยความสำเร็จมาจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในตลาดต่างประเทศที่แบรนด์ Mogu Mogu (โมกุ โมกุ) น้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวที่มาจากผลผลิตเกษตรกรไทย สร้างปรากฎการณ์ Brand Lover ในประเทศที่เป็น Key Countries อย่างเกาหลีใต้และฝรั่งเศส

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE 
เปิดเผยผลรดำนงานในปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทสามารถสร้างผลงานติบโตได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยมีรายได้จากการขาย4,566.4 ล้านบาท เติบโต 32.6% เมื่ทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทีมียได้จากการขาย 3,444.16านบาท และทำกำไรสุทธิ 653.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น59.0% กช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ410.81 ล้บาท และมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ 14.3% จากปี 2564 อยู่ที่ 11.9% นับเป็นการทุบสถิติใหม่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2564และเป็นรายได้สูงสุดที่บริษัทเคยมีมา สะท้อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งลาดต่างประเทศจากทีมงานและ Business Partners ของ SAPPE ที่มีอยู่ทั่วโลก สร้างความมั่นใจในสินค้าภายใต้แบรนด์ของ SAPPE ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลก

ความสำเร็จของผลการดำเนินงานในครั้งนี้ มาจากการเติบโตในตลาต่างประเทศที่มีการส่งออกไป 98 ประเทศทั่วโลก สัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศคิดเป็น 77% ของรายได้รว ซึ่งมาจากการขยายฐานลูกค้า และมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น อาทิ ช่องทางห้างค้าปลีก (Modern Trade) และ้าดั้งเดิม (Traditional Tradeรวมทั้ง O2(Online to Offline Marketing) ในบางประเทศ ส่งผลให้มียอดคำสั่งซื้อในทุกภูมิภาคของโลกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดต่างประเทศคือน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ Mogu Mogu (โมกุ โมกุ) และเครื่องดื่มผสมว่านหางจระเขแบรนด์ Sappe Alovera Drink (เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์) ในต่มีศักยภาพเติบโตสูง ้แก่ กลุ่มประเทศในทวีปยุโรปทวีปตะวันออกกลาง และทวีปเอเชีย เช่น กาหี และฟิลิปปินส์ เป็นต้น

และที่โดดเด่นสุดของตลาดต่างประเทศในปีที่ผ่านมา คือประเทศฝรั่งเศส การเิบโตสูถึง 285.4% ซึ่งน้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ Mogu Mogu ได้รับการตอบรับจากชาวฝรั่งเศสดีเกินคาด และยังส่งอิทธิพลเชิงบวกต่อประเทศอื่นโดยรอบในโซนทวีปยุโรปทำให้มียอดเติบโตตามไปด้วย โดยปีที่ผ่านมาได้ขยายช่องทางจัดจำหน่ายเข้าสู่ช่องทางห้างค้าปลีก (Modern Trade) เพิ่มการระจายสินค้าให้ครอบคลุมและเข้าสู่ประเทศแถบยุโรปด้วยโมเดลธุรกิจคล้ายกับในฝรั่งเศส ซึ่งกระแส Mogu Mogu Fever นี้ นับเป็นความภาคภูมิใจของแบรนด์ไทย ที่สามารถสร้างการยอรับในประเทศที่เป็น Key Countries ของยุโรปได้สำเร็จ 

และอีกประเทศที่ SAPPE ภาคภูมิใจไม่แพ้กัน คือเกาหลีใต้ ที่มีอัตราเติบโตสูงตลอดช่วงที่ผานมาจนขึ้นแท่นเครื่องดื่มอันดับหนึ่งในเกาหลีใตอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิม โดยปี 2565 SAPPE รุกทำตลาดด้วยการใช้กลยุทธ์ Global Influencer Marketing (ผู้ทรงอิทธิพลชื่อดังระดับโลอย่างวง “บีทีเอส” (BTS) ในการโปรโมทผลิตภัณฑ์ Mogu Mogu ผ่านรายการ RUN BTS รวมถึงการสร้างให้Mogu Mogu เป็นแบรนด์ Lifestyle เจาะกลุ่ม Gen Z ทั่วโลกผ่าน “ZEPETO” แพลตอร์ม Metaverse ใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวว่า ปี 2566 เราเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จแบบไม่หยุด ล่าสุดเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ 1 ในผู้สนับสนุนซีรีส์เกาหลีสุดฮิตเรื่อง ‘Crash Course In Romance’ ที่เป็นซีรีส์อันดับ 1 ในเกาหลีใต้ละติด Top 10 อีกหลายๆประเทศในเอเชียและตะวันออกกลางของ Netflix พร้อมทั้งครองแชมป์อับดับ 1 ต่อเนื่องหลายสัปดาห์ในการออกอากาศผ่านทาง TV ช่อง TVN ของเกาหลีใต้ และ TVing (Online TV ของ TVN